นิมิต ของ ฌาน ดาร์ก

“ฌาน ดาร์ก” โดยเออแฌน ตีริยอง (ค.ศ. 1876) ภาพลักษณะนี้ในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 มักจะมีนัยยะทางการเมืองระหว่างช่วงที่ฝรั่งเศสเสียดินแดนให้แก่เยอรมนีในปี ค.ศ. 1871 (โบสถ์น็อทร์-ดามที่โชตู)

นิมิตของฌานเป็นหัวข้อที่เป็นที่น่าสนใจกันเป็นอันมาก นักวิชาการเห็นพ้องกันว่าความศรัทธาของฌานเป็นความศรัทธาที่จริงใจ ฌานกล่าวว่านักบุญมาร์กาเรตแห่งแอนติออก นักบุญแคเธอรินแห่งอะเล็กซานเดรีย และอัครทูตสวรรค์มีคาเอลเป็นที่มาของวิวรณ์ แต่ก็ยังมีความกำกวมในชื่อดังกล่าวว่าเป็นนักบุญองค์ใดแน่ในบรรดานักบุญที่มีชื่อเหมือนกันที่ฌานตั้งใจจะกล่าวถึง ผู้นับถือคริสต์ศาสนานิกายโรมันคาทอลิกเห็นว่านิมิตของฌานเป็นการดลใจจากพระเจ้า (inspiration divine)

นิมิตของฌานออกจะเป็นปัญหาเพราะแหล่งข้อมูลส่วนใหญ่มาจากบันทึกของการพิจารณาคดีครั้งแรก ฌานท้าทายกระบวนการของการไต่สวนตามธรรมเนียมของศาลในเรื่องการสาบานพยานและโดยเฉพาะเมื่อปฏิเสธไม่ยอมให้การใดใดที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนิมิตเมื่อถูกถาม ฌานประท้วงว่ามาตรฐานของการสาบานพยานของศาลขัดต่อคำสาบานที่เธอได้กระทำไว้ก่อนหน้านั้นในการรักษาความลับของการเข้าเฝ้าพระเจ้าชาร์ลส์ ซึ่งทำให้ไม่อาจจะทราบได้ว่าเอกสารที่ยังหลงเหลืออยู่จะเป็นที่น่าเชื่อถือได้เพียงใด เพราะอาจจะเป็นเอกสารที่ถูกประดิษฐ์แก้ไขขึ้นเพื่อประโยชน์ของศาลโดยเจ้าหน้าที่ของศาลเอง หรืออาจจะเป็นการประดิษฐ์แก้ไขของฌานเองเพื่อป้องกันความลับของราชอาณาจักร[58] นักประวัติศาสตร์บางท่านก็เลี่ยงการสันนิษฐานที่เกี่ยวกับนิมิตโดยเสนอว่าความเชื่อของฌานในการที่ถูกเรียกตัวให้มาปฏิบัติภารกิจมีความสำคัญกว่าคำถามที่เกี่ยวกับที่มาดั้งเดิมของนิมิตที่เกิดขึ้น[59]

ฌาน ดาร์กโดยโจเซฟ วิลเลียม จอยฌานออฟอาร์คถูกเผาทั้งเป็นโดย Jules-Eugène Lenepveu

เอกสารร่วมสมัยของฌานและจากนักประวัติศาสตร์ก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 20 มักจะสรุปว่าฌานมีสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจปกติ แต่นักวิชาการในปัจจุบันพยายามอธิบายการเห็นนิมิตของฌานว่าอาจจะเป็นอาการทางจิตหรือทางประสาท การสันนิษฐานการวินิจฉัยก็รวมทั้งโรคลมชัก (epilepsy) , ไมเกรน (migraine) , วัณโรค และโรคจิตเภท (schizophrenia) [60] แต่การสันนิษฐานต่างๆ ที่ว่าก็ไม่มีข้อใดที่เป็นที่เห็นพ้องกันกันโดยทั่วไป แต่ประสาทหลอน (hallucination) และความศรัทธาอันรุนแรงทางศาสนาอาจจะเป็นสาเหตุให้เกิดอาการได้หลายอย่าง แต่อาการที่ว่านี้ขัดกับสิ่งที่เราทราบเกี่ยวกับชีวิตของฌาน นักวิชาการสองคนผู้วิจัยสมมุติฐานเกี่ยวกับ วัณโรคในสมองกลีบขมับ (Temporal lobe tuberculoma) ในวารสารทางแพทย์ Neuropsychobiology แสดงความแคลงใจว่าฌานเป็นโรคที่ว่าจากการสันนิษฐานดังนี้:

การสรุปความเห็นที่แท้จริงนั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก แต่ก็ดูเหมือนว่าการลามของวัณโรคซึ่งเป็นเชื้อโรคที่ร้ายแรงไม่ได้จะเกิดขึ้นในตัว“คนไข้” ผู้ที่ใช้ชีวิตอย่างสำบุกสำบัน[เช่นโจน] เป็นวิถีชีวิตที่เป็นไปไม่ได้ที่ผู้ที่มีอาการของเชื้อโรคที่ร้ายแรงเช่นวัณโรคจะสามารถทำได้[61]

ในการโต้ตอบทฤษฎีหนึ่งที่กล่าวว่าฌานอาจจะมีอาการของวัณโรคที่เกิดจากวัว (tuberculose bovine) เพราะดื่มนมที่ยังไม่ได้รับการฆ่าเชื้อ นักประวัติศาสตร์ Régine Pernoud โต้ว่าถ้าการดื่มนมที่ยังไม่ได้รับการฆ่าเชื้อแล้วได้ผู้เป็นประโยชน์แก่ชาติบ้านเมืองอย่างฌานแล้ว รัฐบาลฝรั่งเศสก็ควรจะยุติการบังคับใช้กฎหมายที่ต้องฆ่าเชื้อนมลง[62] ราล์ฟ ฮอฟฟ์แมนศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยเยลในสหรัฐอเมริกาให้ความเห็นว่าการเห็นหรือการได้ยินเสียง (นอกไปจากปกติ) ไม่จำเป็นจะต้องเป็นสัญญาณของการเป็นโรคจิตเสมอไปเช่นประสบการณ์ของฌาน แต่ก็ไม่ได้เสนอทฤษฎีอื่นที่อาจจะเป็นสาเหตุแทน[63]

สมมุติฐานต่างๆ เช่นในกรณีของโรคจิตเภทก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะโอกาสที่ผู้มีอาการของโรคจิตเภทจะได้เข้าใกล้หรือกลายเป็นคนโปรดในราชสำนักได้นั้นเป็นการยากโดยเฉพาะในกรณีของราชสำนักของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 7 เพราะพระราชบิดาของพระองค์เองพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 6 ที่รู้จักกันในพระนามว่า “ชาร์ลส์ผู้บ้าคลั่ง” ผู้ที่ทำให้ฝรั่งเศสอ่อนแอลงทั้งทางด้านการเมืองและทางด้านการทหาร ก็สันนิษฐานว่ามาจากการก็มีพระอาการเสียพระสติเป็นพักๆ ที่ไม่ทรงสามารถพระราชภารกิจตามปกติได้ พระองค์ทรงเชื่อว่าพระองค์เองทำด้วยแก้ว ซึ่งเป็นอาการประสาทหลอนที่ข้าราชสำนักมิได้สันนิษฐานว่ามีส่วนที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใดเกี่ยวกับประสบการณ์ทางศาสนา นอกจากนั้นก็อาจจะเป็นไปได้ว่าความกลัวที่ว่าพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 7 อาจจะเจริญพระชันษาขึ้นมาแล้วมีอาการเหมือนพระราชบิดา เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการยกเลิกสิทธิของพระองค์ในการสืบราชบัลลังก์ฝรั่งเศสในสนธิสัญญาตรัวส์ ความเชื่อที่ว่า “ความบ้าคลั่ง” เป็นโรคที่ติดต่อทางกรรมพันธุ์ฝังแน่นกันมาจนถึงชั่วคนต่อมาเมื่อสมเด็จพระเจ้าเฮนรีที่ 6 แห่งอังกฤษทรงแสดงพระอาการเสียพระสติในปี ค.ศ. 1453 ซึ่งทำให้ถูกกล่าวว่าเป็นส่วนหนึ่งที่มาจากทางฝ่ายฝรั่งเศส เพราะพระเจ้าเฮนรีที่ 6 เป็นพระปนัดดาของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 6

เมื่อฌานมาถึงชีนงองคมนตรีฌาคส์ เชลู (Jacques Gélu) กล่าวเตือนว่า:

เราไม่ควรจะเปลี่ยนนโยบายอันใดจากเพียงได้สนทนากับเด็กสาวคนนี้, [เด็กสาวที่เป็น]ชาวนา... ผู้ที่มักจะมีประสาทหลอน; เราไม่ควรจะทำตัวให้เป็นที่น่าอับอายต่อต่างประเทศ....

ความฉับไวและความรู้เกี่ยวกับอาการทางประสาทของข้าราชสำนักในพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 7 เป็นสิ่งที่ผิดไปจากสามัญทัศน์สำหรับผู้คนในสมัยกลาง[64][65]

นอกจากความสำบุกสำบันทางร่างกายจากการเข้าร่วมในยุทธการต่างๆ ที่ทำให้การสันนิษฐานว่ามีโรคทางร่างกายเป็นไปได้ยากแล้ว ฌานก็มิได้แสดงอาการที่แสดงความบกพร่องในการรู้ (handicap cognitif) แต่อย่างใดที่เป็นส่วนหนึ่งของอาการทางโรคจิตถ้าเกิดขึ้น แต่ตรงกันข้ามฌานแสดงตนว่าเป็นผู้มีปฏิภาณไหวพริบอยู่กับร่องกับรอยจนตลอดชีวิต และผู้ให้การในการพิจารณาคดีครั้งที่สองก็มักจะแสดงความประทับใจในความมีปฏิภาณของฌานที่ว่านี้:

[ผู้พิพากษา]มักจะถามโน่นถามนี่, เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา, แต่ที่เห็นได้ชัดคือฌานสามารถตอบคำถามเหล่านั้นได้อย่างสุขุม, และทำให้ประจักษ์ถึงความทรงจำที่ดี[66]

คำตอบที่สุขุมของฌานภาพใต้การสืบสวนบางครั้งถึงกับทำให้ศาลต้องหยุดการพิจารณาเป็นการสาธารณะหลายครั้ง[42] ถ้านิมิตของฌานเป็นสิ่งที่มีสาเหตุมาจากปัญหาทางสุขภาพทางร่างกายหรือทางจิตแล้ว กรณีของฌานก็เห็นจะต้องเป็นกรณีพิเศษ

แหล่งที่มา

WikiPedia: ฌาน ดาร์ก http://www.library.eb.com.ezproxy.ae.talonline.ca/... http://www.authorama.com/book/jeanne-d-arc.html http://www.etapes.com/index.php?num=84&rub=forum&f... http://www.healthyplace.com/Communities/Thought_Di... http://www.ifrance.com/la-lorraine/Jeanne_Arc.htm http://www.imdb.com/title/tttt0421212/ http://www.jehanne-darc.com http://www.msnbc.msn.com/id/16257470/ http://www.nature.com/news/2007/070402/full/446593... http://www.stjoan-center.com/Album/part47.html